การทำ LASIK หรือ ReLEx SMILE เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อค่าสายตาคงที่แล้ว หากกระจกตาของคุณหนาและแข็งแรงเพียงพอ แม้จะอายุน้อยก็สามารถเข้ารับการรักษาได้ สิ่งสำคัญคือการตรวจประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าดวงตาของคุณเหมาะสมกับการทำ LASIK หรือ ReLEx SMILE เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
สายตาสั้นตั้งแต่ -75 ถึง -1000 D
สายตาเอียงไม่เกิน -500 D
สายตายาวกำเนิดตั้งแต่ +100 ถึง +500 D จะเหมาะสมกับ LASIK มากกว่า ReLEx SMILE
กรณีสายตาสั้นเอียงรวมกันแล้วไม่เกิน -1250 Diopter คุณอาจเป็นผู้ที่เหมาะสมสำหรับการทำ LASIK หรือ ReLEx SMILE การรักษานี้ช่วยลดการพึ่งพาแว่นสายตาหรือคอนแทคเลนส์ แต่ต้องได้รับการตรวจประเมินสภาพตากับจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการรักษา เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพตาของคุณ
การทำ LASIK หรือ ReLEx SMILE ซ้ำ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงและความหนาของกระจกตาหลังแก้ไขสายตา ถ้ากระจกตายังเหลือเพียงพอและยังแข็งแรง ก็สามารถเติมเลเซอร์ได้ในอนาคตหากค่าสายตาเปลี่ยน แนะนำให้พบจักษุแพทย์เพื่อตรวจประเมินก่อนตัดสินใจรักษาซ้ำอีกครั้งนะคะ
อาการตาแห้งหลังการทำ LASIK หรือ ReLEx SMILE มักเกิดขึ้นชั่วคราว โดยช่วงสัปดาห์แรกถึง 1 เดือน ควรหยอดน้ำตาเทียมทุก 1-2 ชั่วโมง จากนั้นให้หยอดตามอาการต่อเนื่องไปจนถึง 6 เดือน ตามคำแนะนำของแพทย์
หมอจะประเมินทั้งความแข็งแรงของกระจกตาและไลฟ์สไตล์ของคุณ เพื่อแนะนำวิธีที่เหมาะสม การตรวจประเมินโดยจักษุแพทย์จะช่วยให้ทราบว่ากระจกตาของคุณเหมาะกับวิธีไหน หากกระจกตาบาง หมออาจแนะนำ ReLEx SMILE เพราะว่าขนาดแผลเล็กและช่วยรักษาความแข็งแรงของกระจกตาหลังทำได้ดีกว่าวิธีเลสิคที่ขนาดแผลใหญ่ค่ะ
ทั้ง 2 วิธีเป็นการเจียระไนแก้ไขสายตาด้วยเลเซอร์ Excimer เหมือนกัน แต่แตกต่างกันในขั้นตอนการแยกชั้นกระจกตา กรณีขนาดและลักษณะของดวงตาเล็กหรือลึกเกินไป รูปร่างของกระจกตาแบนหรือนูนเกินไปอาจพิจารณาการใช้เลเซอร์แยกชั้นกระจกตาด้วยวิธี Femto LASIK แทนการใช้ใบมีดวิธี SBK LASIK เพื่อเพิ่มโอกาสในการแยกชั้นกระจกตาได้อย่างสมบูรณ์และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การตรวจประเมินอย่างละเอียดโดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำให้คุณทราบข้อมูลสำคัญที่ช่วยในการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณได้นะคะ
การตัดสินใจขึ้นอยู่กับค่าสายตาและกระจกตา หากสายตาสั้นและเอียงรวมกันเกิน -8.00 Diopter แนะนำว่า ReLEx SMILE อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า นอกจากนี้ควรพิจารณาเรื่องของระยะเวลาการฟื้นตัวหลังการรักษา ซึ่งทั้งสองวิธีมีความแตกต่างกัน โดยวิธี Trans PRK จะฟื้นตัวค่อนข้างช้ากว่าเมื่อเทียบกับวิธี ReLEx SMILE
หากเริ่มมีภาวะต้อกระจก แนะนำให้รอรักษาต้อกระจกแทนการทำ LASIK หรือ ReLEx SMILE เนื่องจากเลนส์ตาเริ่มขุ่นและทำให้ตามัวมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป การผ่าตัดต้อกระจกสามารถเลือกใส่เลนส์แก้ไขสายตาได้ในขั้นตอนเดียวกัน จึงไม่จำเป็นต้องทำ LASIK, ReLEx SMILE และการรักษาต้อกระจกจะช่วยให้คุณมองเห็นชัดเจนขึ้นและแก้ไขปัญหาสายตาในคราวเดียว
ผู้ที่ไม่เหมาะกับ LASIK หรือ ReLEx SMILE ได้แก่
1. ผู้ที่มีความหนาของกระจกตาบางเกินไปหรือความหนากระจกตาน้อยกว่า 480 ไมครอน
2. มีภาวะกระจกตาโก่งไม่แข็งแรง
3. มีต้อกระจก
4. ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้
5. หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนมาก อาจส่งผลให้ค่าสายตาไม่นิ่ง
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยหลังการทำ LASIK, ReLEx SMILE ได้แก่:
1. ตาแห้ง – อาการตาแห้งมักเกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนแรกหลังการผ่าตัด โดยเฉพาะในช่วงแรกแนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมบ่อยๆ เพื่อบรรเทาอาการตาแห้งหลังการรักษา
2. แสงแตกกระจายตอนกลางคืน – อาจมีการมองเห็นแสงแตกกระจายในที่แสงน้อยหรือกลางคืน ส่วนใหญ่จะดีขึ้นภายใน 3-6 เดือนหลังทำ ซึ่งโดยทั่วไปอาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ และการดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่น
หลังจากทำ LASIK หรือ ReLEx SMILE คุณสามารถกลับมาใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นได้ แต่ควรรอให้แผลหายสนิทและอาการตาแห้งดีขึ้นเสียก่อน ซึ่งโดยปกติใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับวิธีการที่เลือกและการฟื้นตัวของแต่ละบุคคล แนะนำให้ปรึกษาจักษุแพทย์ก่อนใส่คอนแทคเลนส์ เพื่อให้แน่ใจว่าดวงตาของคุณพร้อมสำหรับการใช้งาน
หลังการทำ LASIK หรือ ReLEx SMILE คุณสามารถขึ้นเครื่องบินได้ตามปกติ เนื่องจากไม่มีข้อห้ามในการเดินทางทางอากาศหลังการผ่าตัด อย่างไรก็ตามควรดูแลเรื่องอาการตาแห้งขณะอยู่บนเครื่องบินโดย พกน้ำตาเทียมไว้ใช้หากจำเป็น
การทำ LASIK หรือ ReLEx SMILE เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อค่าสายตาคงที่แล้ว หากกระจกตาของคุณหนาและแข็งแรงเพียงพอ แม้จะอายุน้อยก็สามารถเข้ารับการรักษาได้ สิ่งสำคัญคือการตรวจประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าดวงตาของคุณเหมาะสมกับการทำ LASIK หรือ ReLEx SMILE เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
สายตาสั้นตั้งแต่ -75 ถึง -1000 D
สายตาเอียงไม่เกิน -500 D
สายตายาวกำเนิดตั้งแต่ +100 ถึง +500 D จะเหมาะสมกับ LASIK มากกว่า ReLEx SMILE
กรณีสายตาสั้นเอียงรวมกันแล้วไม่เกิน -1250 Diopter คุณอาจเป็นผู้ที่เหมาะสมสำหรับการทำ LASIK หรือ ReLEx SMILE การรักษานี้ช่วยลดการพึ่งพาแว่นสายตาหรือคอนแทคเลนส์ แต่ต้องได้รับการตรวจประเมินสภาพตากับจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการรักษา เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพตาของคุณ
การทำ LASIK หรือ ReLEx SMILE ซ้ำ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงและความหนาของกระจกตาหลังแก้ไขสายตา ถ้ากระจกตายังเหลือเพียงพอและยังแข็งแรง ก็สามารถเติมเลเซอร์ได้ในอนาคตหากค่าสายตาเปลี่ยน แนะนำให้พบจักษุแพทย์เพื่อตรวจประเมินก่อนตัดสินใจรักษาซ้ำอีกครั้งนะคะ
อาการตาแห้งหลังการทำ LASIK หรือ ReLEx SMILE มักเกิดขึ้นชั่วคราว โดยช่วงสัปดาห์แรกถึง 1 เดือน ควรหยอดน้ำตาเทียมทุก 1-2 ชั่วโมง จากนั้นให้หยอดตามอาการต่อเนื่องไปจนถึง 6 เดือน ตามคำแนะนำของแพทย์
หมอจะประเมินทั้งความแข็งแรงของกระจกตาและไลฟ์สไตล์ของคุณ เพื่อแนะนำวิธีที่เหมาะสม การตรวจประเมินโดยจักษุแพทย์จะช่วยให้ทราบว่ากระจกตาของคุณเหมาะกับวิธีไหน หากกระจกตาบาง หมออาจแนะนำ ReLEx SMILE เพราะว่าขนาดแผลเล็กและช่วยรักษาความแข็งแรงของกระจกตาหลังทำได้ดีกว่าวิธีเลสิคที่ขนาดแผลใหญ่ค่ะ
ทั้ง 2 วิธีเป็นการเจียระไนแก้ไขสายตาด้วยเลเซอร์ Excimer เหมือนกัน แต่แตกต่างกันในขั้นตอนการแยกชั้นกระจกตา กรณีขนาดและลักษณะของดวงตาเล็กหรือลึกเกินไป รูปร่างของกระจกตาแบนหรือนูนเกินไปอาจพิจารณาการใช้เลเซอร์แยกชั้นกระจกตาด้วยวิธี Femto LASIK แทนการใช้ใบมีดวิธี SBK LASIK เพื่อเพิ่มโอกาสในการแยกชั้นกระจกตาได้อย่างสมบูรณ์และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การตรวจประเมินอย่างละเอียดโดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำให้คุณทราบข้อมูลสำคัญที่ช่วยในการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณได้นะคะ
การตัดสินใจขึ้นอยู่กับค่าสายตาเป็นหลัก หากสายตาสั้นและเอียงรวมกันเกิน -8.00 Diopter แนะนำว่า ReLEx SMILE อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า นอกจากนี้ ควรพิจารณาเรื่องของระยะเวลาการฟื้นตัวหลังการรักษา ซึ่งทั้งสองวิธีมีความแตกต่างกัน โดยวิธี Trans PRK จะฟื้นตัวค่อนข้างช้ากว่าวิธี ReLEx SMILE
หากเริ่มมีภาวะต้อกระจก แนะนำให้รอรักษาต้อกระจกแทนการทำ LASIK หรือ ReLEx SMILE เนื่องจากเลนส์ตาเริ่มขุ่นและทำให้ตามัวมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป การผ่าตัดต้อกระจกสามารถเลือกใส่เลนส์แก้ไขสายตาได้ในขั้นตอนเดียวกัน จึงไม่จำเป็นต้องทำ LASIK และการรักษาต้อกระจกจะช่วยให้คุณมองเห็นชัดเจนขึ้นและแก้ไขปัญหาสายตาในคราวเดียว
ผู้ที่ไม่เหมาะกับ LASIK หรือ ReLEx SMILE ได้แก่
1. ผู้ที่มีความหนาของกระจกตาบางเกินไปหรือความหนากระจกตาน้อยกว่า 480 ไมครอน
2. มีภาวะกระจกตาโก่งไม่แข็งแรง
3. มีต้อกระจก
4. ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้
5. หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนมาก อาจส่งผลให้ค่าสายตาไม่นิ่ง
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยหลังการทำ LASIK, ReLEx SMILE ได้แก่:
1. ตาแห้ง – อาการตาแห้งมักเกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนแรกหลังการผ่าตัด โดยเฉพาะในช่วงแรกแนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมบ่อยๆ เพื่อบรรเทาอาการตาแห้งหลังการรักษา
2. แสงแตกกระจายตอนกลางคืน – อาจมีการมองเห็นแสงแตกกระจายในที่แสงน้อยหรือกลางคืน ส่วนใหญ่จะดีขึ้นภายใน 3-6 เดือนหลังทำ ซึ่งโดยทั่วไปอาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ และการดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่น
หลังจากทำ LASIK หรือ ReLEx SMILE คุณสามารถกลับมาใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นได้ แต่ควรรอให้แผลหายสนิทและอาการตาแห้งดีขึ้นเสียก่อน ซึ่งโดยปกติใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับวิธีการที่เลือกและการฟื้นตัวของแต่ละบุคคล แนะนำให้ปรึกษาจักษุแพทย์ก่อนใส่คอนแทคเลนส์ เพื่อให้แน่ใจว่าดวงตาของคุณพร้อมสำหรับการใช้งาน
หลังการทำ LASIK หรือ ReLEx SMILE คุณสามารถขึ้นเครื่องบินได้ตามปกติ เนื่องจากไม่มีข้อห้ามในการเดินทางทางอากาศหลังการผ่าตัด อย่างไรก็ตามควรดูแลเรื่องอาการตาแห้งขณะอยู่บนเครื่องบินโดย พกน้ำตาเทียมไว้ใช้หากจำเป็น