หยุดใส่คอนแทคเลนส์อย่างน้อย 3 วันสำหรับ Soft Lens และอย่างน้อย 2 สัปดาห์สำหรับ Hard Lens ก่อนเข้ารับการตรวจประเมินสภาพตา เพื่อให้กระจกตากลับสู่สภาพปกติและการตรวจวัดค่าสายตาเป็นไปอย่างแม่นยำ
ควรหยอดน้ำตาเทียมทุก 1-2 ชั่วโมง เพื่อเตรียมสภาพตาล่วงหน้าก่อนมาตรวจตา อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อให้ดวงตาชุ่มชื้นและพร้อมสำหรับการประเมินสภาพตาในการตรวจและรักษาสายตา
ควรหยอดน้ำตาเทียมทุก
1-2 ชั่วโมง เพื่อเตรียมสภาพตาล่วงหน้าก่อนมาตรวจตา อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อให้ดวงตาชุ่มชื้นและพร้อมสำหรับการประเมินสภาพตาในการตรวจและรักษาสายตา
แนะนำให้งดทานยารักษาสิวกลุ่ม Retinoic Acid ก่อนเข้ารับการตรวจสายตาอย่างน้อย 1-2 เดือน เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดจากอาการตาแห้งจากการใช้ยาที่จะส่งผลต่อการรักษาสายตา
กรณีที่คุณมีโรคประจำตัว แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่ดูแลคุณอยู่ร่วมด้วยก่อนนะคะ เพื่อให้แน่ใจว่าการรักษาสายตาจะปลอดภัยและเหมาะสมกับสุขภาพของคุณ
สำหรับการตรวจประเมินสภาพตา จะมีการหยอดยาขยายม่านตา ซึ่งทำให้การมองเห็นพร่ามัวและสู้แสงลำบากเป็นเวลา 5-6 ชั่วโมง
ดังนั้นแนะนำให้เตรียมคนมารับกลับหลังการตรวจเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางกลับ
ทำประวัติ
เก็บข้อมูลทั่วไป เช่น อาการเจ็บป่วยปัจจุบัน ยาที่รับประทาน ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต และประวัติครอบครัวกรณีที่มีโรคต้อหิน
หรือโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อมูลการแพ้ยาจะช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
ทำประวัติ
เก็บข้อมูลทั่วไป เช่น อาการเจ็บป่วยปัจจุบัน ยาที่รับประทาน ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต และประวัติครอบครัวกรณีที่มีโรคต้อหินหรือโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อมูลการแพ้ยาจะช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
ตรวจวัดสายตาด้วยเครื่อง Auto Refract
การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการตรวจวัดค่าสายตา เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการวิเคราะห์และพิจารณาค่าสายตาก่อนการผ่าตัด
ตรวจความดันตา
เครื่องวัดความดันตาจะปล่อยลมเบาๆ สัมผัสดวงตาเพื่อวัดความดันลูกตา ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการประเมินความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคต้อหิน
วิเคราะห์กระจกตาด้วยเครื่อง Topography
ลักษณะการตรวจจะมีแสงให้คนไข้จ้องประมาณ 5 วินาที เพื่อตรวจเช็กความหนาและความแข็งแรงของกระจกตาว่ามีความปลอดภัยและเหมาะสมกับการรักษาหรือไม่
วัดสายตาด้วยเจ้าหน้าที่ Optometrist
การตรวจนี้จะเป็นการวัดค่าสายตาอย่างละเอียด ควรนำแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ที่คนไข้ใส่อยู่มาเป็นข้อมูลเปรียบเทียบค่าสายตา
หยอดยาขยายม่านตา
หลังหยอดยาขยายม่านตาจะรอประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อรอให้ม่านตาขยาย จากนั้นจะตรวจดวงตาด้านใน เช่น จอประสาทตา, ขั้วประสาทตา และวัดค่าสายตาซ้ำอีกครั้ง ซึ่งการขยายม่านตาจะทำให้ตามัวประมาณ 5-6 ชั่วโมง
ตรวจจอประสาทตา
เมื่อม่านตาขยายแล้ว แพทย์จะตรวจจอประสาทตา ขั้วประสาทตา ถ้าพบความผิดปกติ เช่น จอประสาทตาเป็นรู จะแนะนำรักษาก่อน เพื่อความปลอดภัย หรือถ้าตรวจพบขั้วประสาทตาโต จะแนะนำตรวจเครื่องมือพิเศษเพิ่มเติมก่อนการพิจารณารักษาสายตา
วัดสายตาซ้ำ
เมื่อม่านตาขยายเต็มที่แล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการวัดค่าสายตาอีกครั้ง เพื่อให้แพทย์มีข้อมูลที่ครบถ้วนในการประเมินความเปลี่ยนแปลงของค่าสายตาและตัดสินใจว่าคุณเหมาะสมสำหรับการทำเลสิคหรือไม่
พบหมอตุลยา
แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพตาของคุณ หากมีคำถามควรเตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อนำมาปรึกษาหมอได้ทันที
งดใส่คอนแทคเลนส์
กรณีตรวจทำวันเดียวกันหยุดคอนแทคเลนส์อย่างน้อย 3 วันขึ้นไปยิ่งหยุดได้นานยิ่งดี แต่ถ้าเคยมาตรวจแล้วผลตรวจกระจกตาผ่านทำได้สามารถหยุดเพียง 3 วันได้ค่ะ
อาบน้ำและสระผมก่อนมาถึงโรงพยาบาล
เพื่อความสะอาดก่อน - หลังผ่าตัดห้ามน้ำเข้าตาในช่วงแรก หลังการผ่าตัดคุณจะได้รับชุดเช็ดตาและชุดยาสำหรับดูแลหลังผ่าตัด
เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย
ก่อนผ่าตัดจะมีชุดคลุมสวมทับชุดคนไข้ แนะนำให้ใส่เสื้อกระดุมหน้าหรือเสื้อคอกว้าง ไม่เป็นขุย เพื่อหลีกเลี่ยงการครูดดวงตาหลังผ่าตัดขณะถอดเสื้อผ้า
งดแต่งหน้า ทาครีมรอบดวงตา
เพื่อความสะอาดระหว่างการผ่าตัด และหลังผ่าตัดควรงดการทาครีมรอบดวงตาในช่วงแรก
งดใช้น้ำหอม โรลออน เจลแต่งผม หรือสเปรย์บำรุงผม
ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อาจรบกวนการทำงานของเลเซอร์ระหว่างการผ่าตัด
เตรียมคนมารับกลับบ้าน
หลังผ่าตัด แพทย์จะปิดฝาครอบตาเพื่อป้องกันการขยี้ตาและให้คนไข้ได้พักผ่อนเต็มที่ โดยจะมีการนัดติดตามผลในวันถัดไป ยกเว้นกรณีรักษาด้วยวิธี PRK หรือ Trans PRK ซึ่งจะนัดตรวจหลังผ่าตัดประมาณ 3 วัน หลังจากที่แผลเริ่มปิดแล้ว